กรุงไทยการไฟฟ้าใช้คุกกี้ Cookie เพื่อสำรวจหน้าเว็บไซต์และสามารถวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ท่าน ทั้งนี้ กรุงไทยการไฟฟ้าจะไม่ใช้คุกกี้ทางเลือกจนกว่าท่านจะอนุญาตให้กรุงไทยการไฟฟ้า เปิดใช้งานคุกกี้ดังกล่าว โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ รายละเอียดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | รายละเอียดนโยบายการใช้งานคุกกี้

Tips พัดลมชาร์ป 16 นิ้ว




RoHS คืออะไร

RoHS ย่อมาจาก Restriction of Hazardous Substances เป็นข้อกำหนดที่ 2002/95/EC ของสหภาพยุโรป (EU) ว่าด้วยเรื่องของการใช้สารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหมายความรวมถึงเครื่องใช้ทุกชนิด ที่ต้องอาศัยไฟฟ้าในการทำงาน เช่น โทรทัศน์ เตาอบไมโครเวฟ วิทยุ เป็นต้นซึ่งหมายความว่า ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องผ่านตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยสารที่จำกัดปริมาณในปัจจุบัน กำหนดไว้ 6 ชนิด ดังนี้

  1. ตะกั่ว (Pb) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  2. ปรอท (Hg) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  3. แคดเมียม (Cd) ไม่เกิน 0.01% โดยน้ำหนัก
  4. เฮกซะวาเลนท์ (Cr-VI) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  5. โพลีโบรมิเนต ไบเฟนนิลส์ (PBB) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  6. โพลีโบรมิเนต ไดเฟนนิล อีเธอร์ (PBDE) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก

แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับอุปกรณ์บางอย่าง ที่ยังไม่สามารถใช้สารอื่นมาทดแทนได้ หรือสารที่ใช้ทดแทน มีอันตรายมากกว่า เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งมีสารปรอทเป็นส่วนประกอบ ตะกั่วในเหล็กอัลลอย นอกจากนี้ เครื่องมือด้านการแพทย์ และการทหาร ก็อยู่ในข้อยกเว้น

การดูแลรักษาพัดลม เพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

  • ควรวางพัดลมในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
  • หมั่นทำความสะอาดตามจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใบพัด และตะแกรงครอบใบพัด อย่าให้ฝุ่นละอองเกาะจับ
  • ระวังใบพัด และตะแกรงครอบใบพัด อย่าให้แตกหัก ชำรุด หรือโค้งงอผิดส่วนจะทำให้ลมที่ออกมามีความแรงหรือความเร็วลดลง
  • หมั่นทำความสะอาดช่องลมตรงฝาครอบมอเตอร์ของพัดลม ซึ่งเป็นช่องระบายความร้อนของมอเตอร์ อย่าให้มีคราบน้ำมัน หรือฝุ่นละอองเกาะจับ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของมอเตอร์ลดลง และสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สำหรับพัดลม

ฉลากประหยัดไฟ คือฉลากที่บ่งบอกระดับการใช้ไฟฟ้าและข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ฉลากประหยัดไฟจะมีระดับความประหยัดตั้งแต่เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 โดยที่เบอร์ 5 หมายถึงประหยัดไฟมากที่สุด
โครงการพัดลมไฟฟ้าเบอร์ 5 ดำเนินการครั้งแรกใน พ.ศ. 2544 โดยครอบคลุมเฉพาะพัดลมขนาดใบพัด 12 และ 16 นิ้ว ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 90 โดยการคำนวณประสิทธิภาพค่าการใช้งานของพัดลม จากอัตราการระบายอากาศ (มีหน่วยเป็น ลูกบาศก์เมตรต่อนาที ) กับ กำลังไฟฟ้าที่ใช้ (มีหน่วยเป็นวัตต์)
การคำนวณค่าประสิทธิภาพ ให้นำอัตราการพ่นลม (ลูกบาศก์เมตรต่อนาที) หารด้วยกำลังไฟ (วัตต์) จะได้ค่าประสิทธิภาพค่าใช้งาน (มีหน่วยเป็นลูกบาศก์เมตร ต่อนาที ต่อวัตต์)

พัดลมที่ได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 นั้น ต้องมีค่าประสิทธิภาพดังนี้

  • พัดลม 12 นิ้ว ต้องมีค่าประสิทธิภาพ 1.10 ขึ้นไป
  • พัดลม 16 นิ้ว ต้องมีค่าประสิทธิภาพ 1.30 ขึ้นไป