การใช้กระติกต้มน้ำร้อน ให้ประหยัดไฟฟ้า
ข้อแนะนำในการชงชาจากใบชา
ที่มา: www.doichangtea.com
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สำหรับ กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า
ฉลากประหยัดไฟ คือฉลากที่บ่งบอกระดับการใช้ไฟฟ้าและข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ฉลากประหยัดไฟจะมีระดับความประหยัดตั้งแต่เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 โดยที่เบอร์ 5 หมายถึงประหยัดไฟมากที่สุด
โครงการกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าเบอร์ 5 ดำเนินการครั้งแรกใน พ.ศ. 2553 โดยครอบคลุมกระติกน้ำร้อนทุกขนาด โดยรุ่นที่ผ่านการทดสอบและได้รับฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 จะต้องมีค่าประสิทธิภาพพลังงานความร้อน ร้อยละ 95
ข้อมูลเกี่ยวกับ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ของกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า
ท่อนิรภัย (Safety pipe) คืออะไร
ท่อนิรภัย เป็นอุปกรณ์ติดตั้งพิเศษ ทำจากสเตนเลสไม่เป็นสนิม ตลอดอายุการใช้งาน ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำในกระติกแห้ง เมื่อท่านกดปุ่ม “pump” ขณะที่ระดับน้ำในกระติกต่ำกว่าระดับความสูงของท่อนิรภัย น้ำจะไม่ไหลออกจากท่อรินน้ำ ซึ่งเป็นการเตือนให้ท่านเติมน้ำในกระติก ท่อนิรภัยไม่ได้ถูกติตตั้งมาจากโรงงานผลิต ดังนั้นก่อนเริ่มใช้งาน ควรนำท่อนิรภัย (บรรจุอยู่ในซองพลาสติก) เสียบเข้าที่ท่อน้ำออก บริเวณก้นกระติกก่อน (ท่อนิรภัยจะมีในกระติกฮอทต้าชาร์ปเฉพาะรุ่น KP-Y32P, KP-Y40P)
เมื่อตัวกระติกด้านในเป็นคราบตะกรันตะกรัน
คราบตะกรันเกิดขึ้นได้อย่างไร
เมื่อเราต้มน้ำในภาชนะ โดยเฉพาะในกระติกน้ำร้อน หรือกาต้มน้ำ บางครั้งจะสังเกตุว่ามีคราบขาว ๆ ลอยปะปนอยู่ในน้ำ และเมื่อทิ้งไว้ตกตะกอนเป็นแผ่นคล้ายหินปูนเกาะอยู่กับภาชนะนั้น คราบเหล่านี้คือ "ตะกรัน" ตะกรัน คือ กลุ่มหินปูนจำพวกเกลือแคลเซียม แมกนีเซียมที่มากับน้ำที่เรานำต้ม ซึ่งมีอยู่ทั่วไปทุกแหล่งน้ำรวมทั้งน้ำประปา แต่อาจพบมากในน้ำบาดาล, น้ำฝน หรือน้ำที่มีแร่ธาตุแคลเซียม เมื่อมีการต้มน้ำและน้ำได้ระเหยกลายเป็นไอ ก็จะทิ้งหินปูนพวกนี้ก็จะตกตะกอน กลายเป็น ตะกรัน
การล้างคราบตะกรันในกระติก
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณภาพน้ำประปา สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://cwc.mwa.co.th/index.php?page=showarticle_tab.php
เลือกใช้ขนาดกระติกต้มน้ำร้อนให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้น้ำร้อนในแต่ละวัน
ถ้าใช้น้ำร้อนไม่เกิน 5 แก้วต่อวัน ควรเลือกซื้อกระติกขนาด 1.6 ลิตรก็พอ ไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดที่ใหญ่กว่านี้ เพราะเมื่อเทียบกับการใช้ไฟขณะต้มน้ำ 1 กระติก ขนาด 1.6 ลิตร จะใช้เวลาต้มน้ำประมาณ 10 นาที กินไฟประมาณ 30-35 สตางค์ ถ้าใช้น้ำร้อนประมาณ 10-12 แก้วต่อวัน ควรเป็นกระติกขนาด 2.8 ลิตร จะใช้เวลาต้มน้ำประมาณ 20 นาที กินไฟประมาณ 60-70 สตางค์
หมั่นตรวจระดับน้ำภายในกระติกจะเกิดผลดีกับผู้ใช้
การปล่อยให้ระดับน้ำในกระติกของท่านลดต่ำลงมาก ๆ โดยไม่เติมน้ำ จะทำให้น้ำแห้งหมดกระติก เกิดการชำรุดเสียหายต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่อง เป็นเหตุให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมโดยไม่จำเป็น ทางที่ดีควรตรวจระดับน้ำอย่างสม่ำเสมอ
Copyright © 2016 Thaicity Co.,Ltd. All Rights Reserved. | Powered by Gramick House